แม้คนถนัดมือซ้ายจะมีความสามารถเฉพาะตัวที่แตกต่าง และหลายคนกลายเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จในระดับโลก แต่ในชีวิตประจำวัน คนกลุ่มนี้ต้องเผชิญกับปัญหาหลายด้าน เพราะโลกนี้ส่วนใหญ่ถูกออกแบบโดยอิงจากคนถนัดขวาเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ เครื่องมือ หรือแม้แต่ระบบการเรียนรู้และการทำงาน
ของใช้ในชีวิตประจำวันไม่เป็นมิตร
หนึ่งในอุปสรรคแรกที่คนถนัดมือซ้ายต้องเจอ คือเครื่องใช้พื้นฐานในชีวิตประจำวันที่ออกแบบมาสำหรับคนถนัดขวา เช่น กรรไกร ที่จับแล้วมุมใบมีดจะเบี้ยวเมื่อใช้มือซ้าย หรือที่เปิดกระป๋องที่บังคับให้หมุนขวา หากคนมือซ้ายจะใช้ต้องฝืนธรรมชาติของตัวเอง แม้กระทั่งโต๊ะเรียนหรือโต๊ะประชุมบางประเภทที่มีพนักวางแขนด้านขวา ทำให้คนถนัดซ้ายรู้สึกไม่ถนัดและไม่มีที่พิงข้อศอก บั่นทอนประสิทธิภาพการเขียนหรือทำงาน
การเขียนและเรียนหนังสือกลายเป็นเรื่องยาก
เด็กถนัดมือซ้ายมักต้องปรับตัวมากกว่าเพื่อนร่วมชั้น เพราะการเรียนในระบบโรงเรียนส่วนใหญ่เน้นการเขียนจากซ้ายไปขวา ส่งผลให้คนถนัดซ้ายต้องวางมือในลักษณะผิดธรรมชาติ มือจะบังสิ่งที่เขียน และมีโอกาสเลอะหมึกมากกว่าคนถนัดขวา นอกจากนี้ สมุดแบบมีลวดเย็บด้านซ้าย หรือแฟ้มเอกสาร ก็เป็นอุปสรรคต่อการเขียนของคนถนัดมือซ้าย บางคนถึงขั้นต้องฝึกใช้มือขวาในบางกิจกรรมเพื่อให้เข้ากับระบบที่มีอยู่
เครื่องดนตรี กีฬา และการฝึกฝนบางอย่างอาจไม่เอื้อ
เครื่องดนตรีหลายชนิด เช่น กีตาร์ หรือไวโอลิน มักผลิตสำหรับคนถนัดขวา คนถนัดซ้ายที่อยากฝึกจึงต้องสั่งทำพิเศษหรือกลับสายใหม่ ซึ่งเพิ่มต้นทุนและความยุ่งยาก ในโลกกีฬา การถนัดซ้ายอาจเป็นได้ทั้งข้อได้เปรียบและข้อเสีย ขึ้นอยู่กับประเภทกีฬา บางกีฬา เช่น เทนนิส หรือมวย คนถนัดซ้ายอาจสร้างความได้เปรียบเพราะคู่แข่งไม่ชิน แต่ในกีฬาที่ใช้ร่วมกับอุปกรณ์ เช่น ไม้กอล์ฟ ไม้เบสบอล หรือแม้แต่เก้าอี้ในสนามแข่งขัน ก็ยังผลิตตามมาตรฐานถนัดขวา ทำให้ต้องฝืนท่าทางเพื่อให้เข้ากับระบบ
บางระบบอาจตีกรอบจนทำให้คนถนัดซ้ายเสียความมั่นใจ
บางประเทศหรือวัฒนธรรมยังคงมีทัศนคติเชิงลบต่อคนถนัดมือซ้าย เช่น มองว่าถือสิ่งของหรือหยิบของด้วยมือซ้ายเป็นเรื่องไม่เหมาะสม สิ่งนี้อาจปลูกฝังให้เด็กถนัดซ้ายรู้สึกแปลกแยกหรือต้องฝืนเปลี่ยนตัวเองตั้งแต่เล็ก ซึ่งส่งผลต่อความมั่นใจและการพัฒนาในระยะยาว ในบางกรณี เด็กถนัดซ้ายที่ถูกฝึกให้ใช้มือขวาโดยไม่สมัครใจ อาจส่งผลต่อการพัฒนาระบบประสาทและการประสานมือกับสายตา เช่น การเขียนช้ากว่าปกติ หรือรู้สึกไม่มั่นคงในขณะทำงานที่ใช้มือ
ต้องลงทุนมากกว่าเพื่อให้ใช้ชีวิตได้เท่าเทียม
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนถนัดซ้ายต้องยอมจ่ายแพงกว่าคนอื่นเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตเทียบเท่า เช่น การซื้ออุปกรณ์เฉพาะทางสำหรับคนถนัดซ้าย เช่น คีย์บอร์ด เมาส์ หรือเครื่องครัวบางอย่าง แม้จะมีสินค้าสำหรับมือซ้ายมากขึ้นในตลาด แต่ก็ยังมีราคาสูง และหาซื้อยากเมื่อเทียบกับของสำหรับคนถนัดขวา นี่คือภาระที่ไม่เป็นธรรม แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่สะสมไปก็กลายเป็นต้นทุนชีวิต
สรุป
แม้คนถนัดมือซ้ายจะไม่ได้ด้อยกว่าทางศักยภาพ แต่สิ่งแวดล้อมรอบตัวกลับไม่ได้เอื้อต่อพวกเขาในหลายด้าน ตั้งแต่การเรียน การทำงาน ไปจนถึงกิจกรรมทั่วไปในชีวิตประจำวัน หากเข้าใจข้อจำกัดเหล่านี้ จะช่วยให้ผู้ที่ไม่ได้ถนัดซ้ายเกิดความเข้าใจและเปิดใจมากขึ้น พร้อมส่งเสริมให้เกิดการออกแบบที่ครอบคลุมทุกคน ไม่แบ่งแยกตามธรรมชาติของร่างกายแต่ละคน เพราะความถนัดไม่ควรถูกตีกรอบจากระบบที่ไม่ยืดหยุ่น แต่ควรเปิดทางให้ทุกคนได้ใช้ศักยภาพของตัวเองอย่างเต็มที่เท่ากัน