ไฟเบอร์สำคัญแค่ไหนต่อการขับถ่าย

เชื่อว่าหลายคนเคยมีปัญหาท้องผูก หรือรู้สึกอึดอัดแน่นท้องอยู่บ่อย ๆ ทั้งที่ก็กินอาหารครบสามมื้อ คำถามคือ…ได้กินไฟเบอร์เพียงพอหรือเปล่า เพราะไฟเบอร์หรือเส้นใยอาหารเป็นตัวช่วยสำคัญในการทำให้ระบบขับถ่ายของเราทำงานได้ดีขึ้น และยังช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพตามมาแบบไม่รู้ตัวด้วยนะคะ

ไฟเบอร์คืออะไร

ไฟเบอร์หรือเส้นใยอาหาร คือส่วนของพืชผักผลไม้ที่ร่างกายไม่สามารถย่อยได้ แต่มีบทบาทสำคัญมากในการช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดหลัก ๆ คือ

  • ไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำได้
    ช่วยดูดซับน้ำในลำไส้ ทำให้อุจจาระนุ่มลง ขับถ่ายง่ายขึ้น พบได้ในผลไม้ ข้าวโอ๊ต ถั่ว หรือเมล็ดเจีย
  • ไฟเบอร์ชนิดไม่ละลายน้ำ
    เพิ่มปริมาณของเสียในลำไส้ ทำให้รู้สึกปวดถ่ายเร็วขึ้น พบได้ในผักใบเขียว ธัญพืชไม่ขัดสี และรำข้าว

ไฟเบอร์ช่วยเรื่องขับถ่ายยังไง

  • กระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ให้เป็นจังหวะ
  • ช่วยให้อุจจาระไม่แข็ง ลดปัญหาท้องผูก
  • ดูดซับของเสีย สารพิษ และไขมันบางส่วนออกจากร่างกาย
  • ช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์จากระบบขับถ่าย
  • ลดโอกาสเสี่ยงโรคริดสีดวงทวาร และโรคลำไส้แปรปรวน

แล้วเราควรกินไฟเบอร์แค่ไหนในแต่ละวัน

โดยทั่วไป ผู้ใหญ่ควรได้รับไฟเบอร์วันละประมาณ 25–30 กรัม
แต่จากสถิติ คนส่วนใหญ่มักกินได้แค่ครึ่งเดียวเท่านั้น เพราะในมื้ออาหารทั่วไปมีผักและผลไม้น้อย หรือเลือกกินของแปรรูปมากเกินไป

วิธีเพิ่มไฟเบอร์แบบง่าย ๆ

  • เริ่มมื้อเช้าด้วยข้าวโอ๊ตหรือธัญพืช
  • เพิ่มผักในทุกมื้ออย่างน้อยครึ่งจาน
  • เลือกข้าวกล้องแทนข้าวขาว
  • กินผลไม้สดแทนน้ำผลไม้
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอควบคู่ไปด้วย เพราะไฟเบอร์จะทำงานได้ดีเมื่อมีน้ำช่วย

ถ้าอยากให้ร่างกายรู้สึกเบาสบาย ระบบย่อยอาหารดีขึ้น และห่างไกลจากปัญหาท้องผูก ลองหันมาใส่ใจเรื่องไฟเบอร์ให้มากขึ้นค่ะ แค่เพิ่มผักผลไม้ในมื้ออาหารอย่างสม่ำเสมอ ก็เหมือนได้ดูแลตัวเองจากภายในแล้ว

Proudly powered by WordPress | Theme: Bake Blog by Crimson Themes.