เคยไหมคะที่รู้สึกปวดหัวบ้าง เวียนศีรษะบ้าง หรือบางทีก็ใจสั่นแบบไม่ทราบสาเหตุ แต่ก็คิดว่าอาจจะแค่เหนื่อย หรือเครียดธรรมดาๆ ที่จริงแล้วอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคความดันโลหิตสูงก็ได้นะคะ โรคนี้มักถูกเรียกว่า “ภัยเงียบ” เพราะบางครั้งมันไม่แสดงอาการชัดเจนจนเราไม่ทันระวังตัว
ความดันโลหิตสูงไม่ได้แค่ทำให้เรารู้สึกไม่สบายตัว แต่มันยังสามารถส่งผลเสียต่อหัวใจ สมอง และอวัยวะสำคัญอื่น ๆ ได้อย่างรุนแรงถ้าไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม
ความดันโลหิตสูงคืออะไร
ความดันโลหิตสูงคือภาวะที่แรงดันเลือดในหลอดเลือดสูงเกินไปจนทำให้หัวใจต้องทำงานหนักขึ้น ปกติแล้วค่าความดันโลหิตที่ดีจะอยู่ประมาณ 120/80 มิลลิเมตรปรอท แต่ถ้าค่าตัวบนมากกว่า 140 หรือตัวล่างมากกว่า 90 ก็ถือว่าเริ่มมีความดันโลหิตสูงแล้วค่ะ
ถ้าปล่อยไว้โดยไม่รักษา ความดันสูงจะทำให้หลอดเลือดเสียหาย กลายเป็นสาเหตุของโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคไตเรื้อรังได้ในที่สุด ซึ่งถือว่าเป็นโรคร้ายแรงที่ไม่ควรมองข้ามเลยนะคะ

สัญญาณเตือนที่ควรสังเกต
แม้ว่าในหลายกรณีโรคนี้จะไม่แสดงอาการ แต่ก็ยังมีสัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นสัญญาณที่ร่างกายส่งมาเพื่อบอกว่าความดันโลหิตกำลังสูงขึ้นและอาจเริ่มส่งผลกระทบต่อร่างกาย
- ปวดหัวที่ท้ายทอยแบบตุบๆ หรือรู้สึกปวดหัวบ่อย ๆ โดยเฉพาะตอนเช้า
- รู้สึกเวียนศีรษะหรือหน้ามืดบ่อยครั้ง
- เหนื่อยง่ายกว่าปกติ แม้ไม่ได้ทำกิจกรรมหนัก
- ใจสั่นหรือหัวใจเต้นผิดจังหวะ
- เห็นภาพไม่ชัด หรือมีจุดดำลอยในสายตา
- มีเสียงหวีดในหู หรือรู้สึกเหมือนมีเสียงดังในหูตลอดเวลา
- บางครั้งอาจมีเลือดกำเดาไหลโดยไม่มีสาเหตุชัดเจน
ถ้าหากพบว่ามีอาการเหล่านี้บ่อย ๆ ควรรีบตรวจวัดความดันและพบแพทย์เพื่อประเมินสุขภาพโดยละเอียด
ทำไมความดันโลหิตสูงถึงอันตราย
ความดันโลหิตสูงไม่ได้เป็นแค่เรื่องของตัวเลขบนเครื่องวัด แต่มันส่งผลต่อร่างกายอย่างลึกซึ้ง การที่แรงดันเลือดสูงขึ้นทำให้หลอดเลือดแข็งตัวและตีบแคบ หัวใจจึงต้องทำงานหนักมากขึ้น เพื่อสูบฉีดเลือดไปทั่วร่างกาย
ผลกระทบที่ตามมาอาจเป็นโรคหัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมอง หรือไตวายเรื้อรัง นอกจากนี้ยังเสี่ยงกับการเกิดภาวะหลอดเลือดแตก ซึ่งอาจทำให้เกิดความพิการหรือเสียชีวิตได้ในเวลาอันรวดเร็ว
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคนี้
พูดถึงสาเหตุ จริง ๆ แล้วหลายอย่างที่ทำให้เรามีความเสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูง มาจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวันของเรานี่เองค่ะ เช่น อายุที่มากขึ้น พันธุกรรม น้ำหนักตัวที่เกินเกณฑ์ รวมถึงการกินอาหารที่มีโซเดียมสูงเกินไป การขาดการออกกำลังกาย และความเครียดสะสม
การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นได้ง่ายมากขึ้น และถ้ารวมปัจจัยพวกนี้เข้าด้วยกัน ความเสี่ยงก็ยิ่งเพิ่มสูงขึ้นไปอีก

วิธีดูแลตัวเองและป้องกันความดันโลหิตสูง
การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตง่าย ๆ สามารถช่วยลดความเสี่ยงและควบคุมความดันโลหิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น
- ลดการบริโภคเกลือและอาหารที่มีโซเดียมสูง
- รับประทานผักผลไม้และอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เช่น เดินเร็ว ว่ายน้ำ หรือโยคะ
- ลดน้ำหนักถ้ามีน้ำหนักเกิน
- หลีกเลี่ยงความเครียดโดยการพักผ่อนเพียงพอและทำกิจกรรมผ่อนคลาย
- เลิกสูบบุหรี่และจำกัดการดื่มแอลกอฮอล์
- ตรวจวัดความดันโลหิตเป็นประจำ และพบแพทย์ตามนัด
สัญญาณอันตรายที่ไม่ควรรอช้า
ถ้ารู้สึกว่าปวดหัวรุนแรงมากแบบเฉียบพลัน หรือมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออกอย่างรวดเร็ว รวมถึงอ่อนแรงหรือชาอย่างกะทันหันในส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย นั่นคือสัญญาณฉุกเฉินที่ต้องไปโรงพยาบาลทันที
เพราะนี่อาจเป็นสัญญาณของโรคหลอดเลือดสมองหรือโรคหัวใจวาย ที่ถ้าช้าจะมีความเสี่ยงร้ายแรงถึงชีวิตได้
โรคความดันโลหิตสูงอาจเป็นโรคที่ไม่แสดงอาการให้เห็นชัดเจนในช่วงแรก แต่ก็ไม่ควรมองข้ามอาการเตือนเล็ก ๆ ที่ร่างกายส่งมาให้ เพราะมันคือเสียงเตือนที่บอกว่าเราควรใส่ใจสุขภาพให้มากขึ้น
การดูแลตัวเองด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ปรับอาหาร ออกกำลังกาย และตรวจสุขภาพเป็นประจำ จะช่วยให้เราควบคุมความดันโลหิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ