มือเท้าปาก ฉีดวัคซีนแล้วจะรอดไหม หรือยังเสี่ยงติดอีก

หลายครอบครัวที่มีลูกเล็กคงคุ้นเคยกับชื่อของ “โรคมือ เท้า ปาก” กันดี เพราะเป็นโรคติดต่อที่ระบาดได้ง่ายในศูนย์เด็กเล็ก โรงเรียน หรือสถานที่ที่มีเด็กอยู่รวมกันมากๆ โดยเฉพาะในฤดูฝน หลายคนเข้าใจว่าวัคซีนคือทางรอดเดียว แต่ในความเป็นจริงแล้ว การฉีดวัคซีนอาจไม่ใช่คำตอบแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ แล้วถ้าลูกฉีดวัคซีนไปแล้ว ยังมีโอกาสเป็นอีกหรือไม่ เราจะมาอธิบายชัดๆ ให้เข้าใจครบในบทความนี้

มือ เท้า ปาก คือโรคอะไร ทำไมติดง่ายในเด็กเล็ก

โรคมือ เท้า ปาก เป็นโรคติดเชื้อไวรัสกลุ่มเอนเทอโรไวรัส โดยที่พบบ่อยที่สุดคือสายพันธุ์ coxsackievirus A16 และ enterovirus 71 (EV71) ลักษณะอาการคือ มีไข้ เจ็บคอ มีผื่นหรือตุ่มแดงบริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า และในปาก อาจลามไปที่ก้นหรือข้อพับก็ได้ เด็กจะงอแงเพราะเจ็บแผลในปาก ทำให้ไม่อยากกินข้าว ดื่มน้ำน้อย จนอาจเสี่ยงขาดน้ำได้ โรคนี้แพร่ผ่านทางน้ำลาย น้ำมูก อุจจาระ และผิวหนังที่สัมผัสกับตุ่มน้ำ ดังนั้นในศูนย์เด็กเล็กที่มีการเล่นของเล่นร่วมกัน สัมผัสใกล้ชิด หรือเปลี่ยนผ้าอ้อมร่วมกัน จึงเป็นแหล่งระบาดง่ายที่สุด

วัคซีนมือ เท้า ปาก มีหรือไม่ แล้วป้องกันได้แค่ไหน

ปัจจุบันมีวัคซีนที่ใช้ป้องกันเชื้อ EV71 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่รุนแรงที่สุด โดยมีจำหน่ายในบางประเทศ เช่น จีน และเวียดนาม ส่วนในไทย วัคซีนยังไม่ถูกบรรจุในแผนวัคซีนพื้นฐานแห่งชาติ ต้องซื้อฉีดเองในโรงพยาบาลเอกชน แต่ถึงแม้ว่าจะฉีดวัคซีน EV71 แล้ว เด็กยังคงมีโอกาสติดเชื้อจากสายพันธุ์อื่นๆ เช่น coxsackie A16 หรือ A6 ได้อยู่ดี เพียงแต่อาการมักจะไม่รุนแรงเท่า EV71 ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนถึงขั้นสมองอักเสบ หรือระบบหัวใจล้มเหลวในเด็กเล็กบางราย

ฉีดวัคซีนแล้ว ยังเสี่ยงติดอยู่ไหม

คำตอบคือ “ใช่” เด็กยังเสี่ยงติดโรคมือ เท้า ปาก ได้ ถ้าเชื้อที่ติดไม่ใช่สายพันธุ์เดียวกับวัคซีน แต่สิ่งที่วัคซีนทำได้ดีคือ ลดความรุนแรงของอาการ และลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายถึงชีวิต โดยเฉพาะหากเกิดจากเชื้อ EV71 การฉีดวัคซีนจึงเป็นการเพิ่มเกราะป้องกัน แต่อย่าคิดว่าเป็นเกราะที่ไม่มีรูรั่ว การรักษาความสะอาด และการดูแลสุขอนามัยของลูกยังเป็นเรื่องที่ต้องทำคู่กันเสมอ

วิธีลดโอกาสติดเชื้อแม้ฉีดวัคซีนแล้ว

  • ฝึกลูกให้ล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะก่อนกินข้าวและหลังเข้าห้องน้ำ
  • หลีกเลี่ยงพาเด็กไปในที่แออัดช่วงที่โรคระบาด
  • ทำความสะอาดของเล่นและพื้นผิวที่เด็กสัมผัสบ่อยๆ
  • แยกเด็กป่วยออกจากกลุ่มเด็กปกติทันทีที่พบอาการสงสัย
  • ผู้ดูแลเด็กเล็กควรใส่ถุงมือและล้างมือให้สะอาดเมื่อต้องเปลี่ยนผ้าอ้อม
  • หากมีระบาดในศูนย์เด็กเล็ก ให้พิจารณาปิดชั่วคราวเพื่อควบคุมโรค

สรุป

แม้ว่าจะมีวัคซีนสำหรับป้องกันโรคมือ เท้า ปาก จากสายพันธุ์ EV71 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่อันตรายที่สุด แต่การฉีดวัคซีนไม่ได้หมายความว่าลูกจะปลอดภัยจากโรคนี้อย่างสมบูรณ์ เพราะเชื้อไวรัสมีหลายสายพันธุ์ และเด็กยังอาจติดเชื้อจากสายพันธุ์อื่นได้อยู่ดี สิ่งสำคัญคือการดูแลสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด การเฝ้าระวังอาการ และการรับมืออย่างรวดเร็วเมื่อพบความผิดปกติ จะช่วยลดโอกาสการแพร่ระบาดและช่วยให้เด็กฟื้นตัวเร็วขึ้นอย่างปลอดภัย

Proudly powered by WordPress | Theme: Bake Blog by Crimson Themes.